“ท็อป วราวุธ ศิลปอาชา” รมว.ทรัพยากรฯ ยื่นของบจากงบกลาง พิจารณาจัดจ้างเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ที่ถูกเลิกจ้างกระทันหัน ย้ำ! จะไม่มีใครถูกเลิกจ้างหรือตัดเงินเดือนอีก วันนี้ 22 ม.ค. 65 รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งเเวดล้อม โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก “TOP Varawut – ท็อป วราวุธ ศิลปอาชา” ถึงสถานการณ์การถูกเลิกจ้างของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า จำนวน 1,731 ท่าน
เหตุจากการจัดสรรงบจ้างงานของรัฐบาล เกิดเป็นข่าวใหญ่ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
มีเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าอีกส่วนหนึ่งถึงแม้ไม่ได้ถูกเลิกจ้าง แต่กลับต้องถูกลดเงินเดือนลง รวมถึงบางคนถูกลดเงินเดือนจาก 9,000 เหลือเพียง 7,500 บาทเท่านั้น ท็อป วราวุธ ศิลปอาชา ยืนยันว่าในฐานะ รมว.กระทรวงทรัพยากรฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้ยื่นของบกลางเพื่อขอจัดจ้างเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าเดิมที่ได้รับผลกระทบถูกเลิกจ้าง โดยโพสต์ระบุรายละเอียดว่า
“สำหรับกระแสข่าว การถูกลดงบประมาณ ซึ่งอาจทำให้เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าต้องถูกเลิกจ้าง-ลดจำนวนลงกว่าครึ่งนั้น ผมไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้ทำหนังสือยื่นขอจัดสรรงบประมาณจากงบกลาง
สำนักงบประมาณพิจารณาถึงความจำเป็นในการจ้างเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่า เพื่อปกป้องรักษาผืนป่าของประเทศแล้ว #ขณะนี้อยู่ระหว่างรอเข้าชี้แจง ถึงความจำเป็นในการของบดังกล่าว ไปใช้ในการปฏิบัติหน้าที่อย่างไรบ้าง
ผมเชื่อว่า สำนักงบประมาณจะเห็นถึงความจำเป็นและอนุมัติงบประมาณ หากเป็นไปตามคำขอ เราจะสามารถจ้างงานเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าได้ทั้งหมด และจะไม่มีใครถูกเลิกจ้างหรือตัดเงินเดือนอีก
เนื่องจากที่ผ่านมา การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่มีกำลังพลไม่เพียงพออยู่แล้ว
เฉลี่ยแล้ว การดูแลผืนป่าของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า 1 คน ต้องดูแลมากถึง 10,000 ไร่ การรับมือกับการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่าและล่าสัตว์ป่าครับ #TopVarawut #MNRE #พรรคชาติไทยพัฒนา”
สิ้นตำนานโรงเรียนชื่อดังย่านสุขุมวิท “โรงเรียนวรรณวิทย์” เหตุ แบกรับขาดทุนไม่ไหว ศิษย์เก่าชวนร่วมงานอำลา 26 ก.พ. นี้ เวลา 10.00 น. เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 65 เพจเฟซบุ๊ก “ศิษย์เก่าโรงเรียนวรรณวิทย์ Wannawit School Alumni” โพสต์แจ้งปิดตัว “โรงเรียนวรรณวิทย์” ที่เปิดสอนมากว่า 75 ปี ใจกลางกรุง ย่านสุขุมวิท
สาเหตุการปิดตัวเนื่องจาก สภาวะขาดทุนอย่างต่อเนื่องในภาวะโควิด-19 ทำให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง ขาดรายได้ ส่งผลให้ไม่มีเงินชำระค่าเทอมติดต่อกันเป็นเวลานาน ทางโรงเรียนไม่สามารถแบกรับภาระการขาดทุนได้อีก จึงจำเป็นต้องปิดตัวลง ทั้งนี้ ศิษย์เก่าได้ชวนอาลัยผ่านหน้าเพจ ระบุรายละเอียดว่า “ขอประชาสัมพันธ์งาน สิ้นเสียงระฆังวรรณวิทย์
เนตรนารีพกมุ้ง เข้าค่ายลูกเสือสุดปัง ไม่พึ่งเต็นท์
เปิดคลิป Tiktok เนตรนารีสุดปัง เข้าค่ายลูกเสือ คนอื่นพกเต็นท์ ตัวเองกางมุ้ง สุดท้ายอาจารย์กลัวนักเรียนหนาว ได้นอนเต็นท์อำนวยการแทน วานนี้ 21 ม.ค. 65 กลายเป็นกระแสโด่งดังถูกใจชาวเน็ต เมื่อผู้ใช้ Tiktok@petong_koawoon โพสต์คลิปค่ายลูกเสือ-เนตรนารี โดยเป็นวีดีโอขณะที่ลูกเสือและเนตรนารีกำลังกางเต็นท์เพื่อนอนพักแรมค่าย
ช่วงกลางคลิปกล้องถ่ายไปเห็นความแปลกแตกต่างจากเต็นท์คนอื่น เมื่อดูใกล้ๆ เห็นเป็นเนตรนารีคนหนึ่งกำลังกางมุ้งอย่างขมักเขม้น ผู้ถ่ายคลิปใส่ข้อความภายในคลิปว่า “มันสิหนาวเด้ ลูกเสือ นั่นมันมุ้งบ่เเม่นเต็นท์” สุดท้ายเนตรนารีคนดังกล่าว จึงถูกคุณครูพาไปนอนที่เต็นท์อำนวยการ เพราะกลัวนักเรียนจะหนาวจนเกินไป
ราชกิจจาฯ ประกาศเร่ง ผู้ผลิต นำเข้า หรือรับจ้างผลิต ผ้าอนามัยชนิดสอด ทำคำเตือนที่ฉลาก ห้ามใส่เกิน 8 ชม. ภายใน 180 วัน วานนี้ 21 ม.ค. 65 เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา รายงานข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ.2558 เรื่องข้อกำหนดการผลิต ผ้าอนามัยชนิดสอด โดยมีเนื้อหาตามมาตรา 22 วรรคสอง (3) ค ระบุว่า “ข้อ 1 ผ้าอนามัยชนิดสอด ต้องแสดงคำเตือนที่ฉลาก ดังนี้
(1) ไม่ควรใช้เมื่อภาชนะบรรจุฉีกขาด
(2) ไม่ควรใส่ไว้ในช่องคลอดนานเกิน 8 ชั่วโมง ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 4-8 ชั่วโมง
(3) ขณะใช้ หากมีอาการเป็นไข้สูงเฉียบพลัน คลื่นเหียน อาเจียน วิงเวียน หน้ามืด ท้องเดิน หรือมีผื่นแดงขึ้นตามผิวหนัง ให้นำผ้าอนามัยออก และรีบไปพบแพทย์ทันที
ข้อ 2 ให้ผู้ผลิตเพื่อขาย ผู้นำเข้าเพื่อขาย หรือผู้รับจ้างผลิต ผ้าอนามัยชนิดสอดที่มีการผลิต หรือนำเข้าอยู่ก่อนวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ ดำเนินการให้เป็นไปตามประกาศนี้ภายใน 180 วัน นับแต่วันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ
ข้อ 3 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป”
ทั้งนี้ เพื่ออนามัยของผู้บริโภค โปรดศึกษาฉลากสินค้าทุกชนิดก่อนอุปโภคบริโภคเพื่อความปลอดภัยและสุขภาพที่ดี
